บันทึกการแสดงสดด้วย RME Madiface USB และ Madiface Pro (เป็นรุ่นที่เลิกผลิตแล้ว): การรับสัญญาณ MADI มากกว่า 64 Tracks จากมิกเซอร์ Soundcraft
การบันทึกเสียงสดที่มีคุณภาพสูงต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพในการรับและจัดการกับสัญญาณเสียงจำนวนมาก ในกรณีนี้ การใช้ RME Madiface Pro ร่วมกับ Madiface USB เพื่อรับสัญญาณ MADI จากมิกเซอร์ Soundcraft ทำให้สามารถบันทึกสัญญาณเสียงได้มากถึง 128 Tracks ในเวลาเดียวกัน
อุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มเติม
1. RME Madiface Pro: ตัวหลักในการรับสัญญาณ MADI เนื่องจากมีช่องต่อหูฟังสำหรับตรวจสอบสัญญาณเสียงที่เข้ามา ทำให้สามารถฟังและตรวจสอบคุณภาพเสียงได้แบบเรียลไทม์
2. RME Madiface USB: ใช้ร่วมกับ Madiface Pro เพื่อเพิ่มจำนวนช่องสัญญาณที่สามารถบันทึกได้ถึง 128 Tracks
3. มิกเซอร์ Soundcraft: ยังคงเป็นอุปกรณ์หลักในการส่งสัญญาณ MADI มีช่องต่อ MADI Out 2 ช่อง (Main และ Aux)
4. คอมพิวเตอร์ PC: หนึ่งเครื่องที่ติดตั้งทั้ง Madiface Pro และ Madiface USB เพื่อรับสัญญาณ
5. สาย Fiber Optic: ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างมิกเซอร์และ RME Madiface
6. โปรแกรมบันทึกเสียง: Samplitude Pro X 7 และ Reaper
การติดตั้งและเชื่อมต่อ
1. การเชื่อมต่อ RME Madiface Pro และ Madiface USB: ต่อ Madiface Pro และ Madiface USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ PC เครื่องเดียวกันผ่านพอร์ต USB ทั้งสองอุปกรณ์จะทำงานร่วมกันเพื่อรับสัญญาณ MADI ได้มากถึง 128 Tracks
2. การตั้งค่าซอฟต์แวร์: ใช้ Samplitude Pro X 7 และ Reaper ในการจัดการและบันทึกสัญญาณเสียง Samplitude Pro X 7 จะถูกตั้งค่าให้รองรับช่องสัญญาณจาก Madiface Pro และ Madiface USB ทั้งหมด เพื่อให้สามารถบันทึกได้ถึง 128 ช่องสัญญาณพร้อมกัน
3. การตรวจสอบสัญญาณเสียง: Madiface Pro มีช่องต่อหูฟัง ซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบสัญญาณที่กำลังเข้ามาได้แบบเรียลไทม์ ทำให้มั่นใจได้ว่าสัญญาณทุกช่องมีคุณภาพที่ดีและไม่มีปัญหาในการบันทึก
การบันทึกการแสดงสด
เมื่อทุกอย่างถูกตั้งค่าเรียบร้อยและมีการทดสอบความถูกต้องแล้ว เปิดโปรแกรมบันทึกเสียง Samplitude Pro X 7 และ Reaper ในคอมพิวเตอร์ PC เพื่อเริ่มบันทึกการแสดงสด โดยการเชื่อมต่อและการตั้งค่าอุปกรณ์เช่นนี้ จะทำให้สามารถรับและบันทึกสัญญาณ MADI ได้ถึง 128 Tracks จากมิกเซอร์ Soundcraft ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของการใช้ RME Madiface Pro และ Madiface USB
• ความยืดหยุ่นสูง: สามารถรับสัญญาณ MADI ได้มากกว่า 64 Tracks โดยการรวมอุปกรณ์สองตัวเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถรองรับการบันทึกในสถานการณ์ที่มีการใช้งานช่องสัญญาณมากขึ้น
• คุณภาพเสียงสูง: การใช้ RME Madiface Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงที่มีช่องต่อหูฟัง ช่วยให้สามารถตรวจสอบคุณภาพเสียงได้ตลอดเวลา
• สะดวกในการติดตั้งและใช้งาน: การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB และการใช้สาย Fiber Optic ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งและการจัดการสายสัญญาณ
• ความมั่นใจในคุณภาพการบันทึก: สามารถตรวจสอบสัญญาณเสียงได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Madiface Pro ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
การนำ RME Madiface Pro และ Madiface USB มาใช้งานร่วมกันในการบันทึกการแสดงสด ทำให้สามารถจัดการกับสัญญาณเสียงจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในคุณภาพเสียงที่บันทึกได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานสำหรับสถานการณ์ที่มีการใช้งานช่องสัญญาณเสียงมากกว่า 64 ช่องอีกด้วย
